กินเที่ยวที่มหานครฉงชิ่งดินแดนแห่งขุนเขาทะเลหมอก แหล่งต้นกำเนิดหม้อไฟฉงชิ่ง

Categories: sclc-ชีพจรจีน

คอลัมน์ออนไลน์ "ชีพจรจีน" ประจำเดือนมีนาคม

เรื่อง กินเที่ยวที่มหานครฉงชิ่งดินแดนแห่งขุนเขาทะเลหมอก แหล่งต้นกำเนิดหม้อไฟฉงชิ่ง

โดย อาจารย์ ดร.อาภรณ์ ถิรกันต์

ฉงชิ่ง(Chongqing) เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เดิมเป็นเมืองที่ขึ้นกับเสฉวนแต่เนื่องจากการขยายตัวของประชากรที่มีจำนวนมากขึ้น(ปัจจุบันมีกว่า30ล้านคน)และการที่มีที่ตั้งเหมาะสม ในปีค.ศ. 1997 รัฐบาลจึงได้ประกาศให้ฉงชิ่งเป็น 1 ใน 4 มหานครของเมืองจีน จึงทำให้ฉงชิ่งมีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้ามาเที่ยวที่ฉงชิ่งจะพบว่าตึกอาคาร เครื่องใช้ บรรยากาศจะมีความทันสมัย โดยเฉพาะถ้าได้ไปเดินในแถบแหล่งชอปปิ้งจะเห็นผู้คนแต่งตัวที่ทันสมัย และผู้หญิงที่เมืองฉงชิ่งก็มีความสวยเผ็ดร้อน และแต่งตัวทันสมัยถึงขั้นที่เปรียบรสชาติของหม้อไฟหมาล่าว่าร้อนแรงพอๆกับสาวฉงชิ่ง

          สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองฉงชิ่ง

ล่องเรือเที่ยวชมวิวแม่น้ำแยงซีเกียง(ฉางเจียง) แม่น้ำแยงซีเกียงเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในเอเชีย จุดท่องเที่ยวนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่ดังที่สุดของเมืองฉงชิ่ง ถ้าไม่ได้ล่องเรือชมแม่น้ำแยงซีเกียงถือได้ว่ายังมาไม่ถึงฉงชิ่ง หากเวลาน้อยสามารถนั่งเรือชมวิวแบบระยะสั้นวันเดียวได้ การเดินทางสามารถนั่งรถแท็กซี่ แต่หากมีเวลาพอแนะนำให้ซื้อทริปล่องเรือสำราญแล้วล่องไปดูหอเจดีย์เสือเป่าไจ้ เที่ยวเมืองเฟิงตู(เมืองผี) และแวะไปดูเขื่อนซานเสียที่ถือได้ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในฉงชิ่ง

ฉางเจียงสั่วเต้า(Yangtze river cableway) สำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวแม่น้ำแยงซีเกียงแต่ไม่อยากใช้เวลามาก ที่ฉงชิ่งสามารถนั่งกระเช้าชมวิวแม่น้ำแยงซีเกียงได้ โดยค่านั่งกระเช้าไปกลับราคา 30 หยวน ถ้าเที่ยวเดียวราคา 20 หยวน การเดินทางไปขึ้นกระเช้าสามารถนั่งรถไฟฟ้าสีชมพู สาย 6 ลงที่สถานีเสี่ยวชือจึ

เจี่ยฟ่างเปย/หงหยาต้ง/แกลเลอรี่ศิลปะฉงชิ่ง(Jiefangbei/Hongyadong/Chongqing Art Gallery)

หากชอบชอปปิ้ง ต้องไม่พลาด ถ้าชอบแหล่งชอปปิ้งแนวทันสมัยสามารถไปที่ถนนคนเดินเจี่ยฟ่างเปยซึ่งในเจี่ยฟ่างเปยจะมีหอนาฬิกาให้ถ่ายรูปด้วย การเดินทางสามารถนั่งรถไฟฟ้าสีแดง สาย1และสีเขียว สาย2 ไปลงที่สถานี Jiaochangkou และไม่ไกลสามารถเดินเท้าต่อไปยังหงหยาต้ง(Hongyadong)ที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ซึ่งสร้างจากกลุ่มเรือนไม้โบราณ ตั้งอยู่ตรงทางแยกของแม่น้ำแยงซีเกียง โดยการเดินทางสามารถเดินจากแกลเลอรี่ศิลปะฉงชิ่งประมาณห้าร้อยเมตรก็ถึง  นอกจากนั้นยังมีแหล่งชอปปิ้งที่ใหญ่ๆที่สามารถนั่งรถไฟฟ้าถึงได้เลยอีกหลายแห่งให้ไปเลือกซื้อของอย่างซาผิงป้า(Shapingba) หนานผิง(Nanping) กวนอินเฉียว(Guanyinqiao) หยางเจียผิง(Yangjieping) เจียงเป่ยเฉิง(Jiangbeicheng)เป็นต้น  

พระพุทธรูปสลักหินต้าจู๋(Dazu rock Caving) ได้การยอมรับจากยูเนสโกถือให้เป็นมรดกโลก เป็นผาหินสลักที่ได้รับอิทธิพลทางพุทธศาสนา ขงจื้อ เล่าจื้อ และลัทธิเต๋า ถูกก่อสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ถึงปลายศตวรรษที่ 13 ซึ่งอยู่ในยุคราชวงศ์ถังถึงซ่งใต้ ใช้เวลาในการแกะสลักกว่า 400ปี ภายในมีรูปปั้นกว่า 5หมื่นรูป อักษรสลักหินกว่า 1 แสนตัว และเจ้าแม่กวนอิมพันกรด้วย การเดินทางสามารถเช่ารถหรือนั่งรถบัสไปชมได้ ใช้เวลาเดินทางจากในเมืองฉงชิ่งประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า                     

สือชี่โข่ว(Ciqikou Ancient Town)เป็นตลาดโบราณ ที่ขึ้นชื่อของเมืองฉงชิ่ง จะมีของกินของฝากและขนมน่ารักๆแนวโบราณให้เลือกซื้อเยอะ การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟฟ้าสีแดง สาย1 ไปลงที่สถานีสือชี่โข่ว

ต้าหลี่ถาง(Great hall of the people,Chongqing people is auditorium) เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง อดีตเป็นโรงละคร จำลองมาจากหอฟ้าเทียนถานเมืองปักกิ่ง สามารถนั่งรถไฟฟ้าสีม่วง สาย10 ไปลงที่สถานีต้าหลี่ถาง

หยวนป๋อหยวน(Chongqing garden Expo) ตั้งอยู่ในเขตอวี๋เป่ย เป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ชอบชมดอกไม้ไปถ่ายรูปไป ข้างในจะผลัดเวียนปลูกดอกไม้นานาพรรณ มีเนื้อที่ให้เดินประมาณ 3300 ไมล์ ราคาตั๋วเข้า 16 หยวน แนะนำผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกายให้นั่งรถเจมส์ขาว เนื่องจากพื้นที่ข้างในกว้างมากและในช่วงเทศกาลโคมไฟที่นี่จะสวยมากข้างในจะติดโคมไฟหลากหลายสีสันและหลากหลายรูปแบบให้เข้าไปชมความงาม การเดินทางสามารถนั่งรถไฟฟ้าสีน้ำเงินเข้ม สาย 3 ลงที่สถานีหยวนป๋อหยวน

สวนสนุกฮวนเล่อกู่(Huanlegu) และหยางเหยินเจีย(Yangrenjie) ถ้าเน้นเล่นเครื่องเล่นเยอะแนะนำให้ไปที่ฮวนเล่อกู่(Huanlegu) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของฉงชิ่ง สวนสนุกแห่งนี้เครื่องเล่นมีความทันสมัยมากและมีโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแบบ3Dและ4Dให้เข้าดูหลายโรง โดยราคาเป็นแบบจ่ายค่าผ่านประตูแบบเหมาจ่ายเพื่อเล่นเครื่องเล่นทั้งวันในราคาคนทั่วไป 180 หยวน ส่วนเด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 150 ซ.ม. ราคา 130 หยวน การเดินทางค่อนข้างสะดวกสามารถนั่งรถไฟฟ้าสีชมพู สาย 6 ไปลงที่สถานีฮวนเล่อกู่ได้เลย และสวนสนุกอีกแห่งที่อยากแนะนำมีชื่อว่าหยางเหยินเจีย(Yangrenjie)ที่เที่ยวแห่งนี้ เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายรูปแต่ไม่ค่อยเล่นเครื่องเล่นเยอะเนื่องจากไม่มีค่าผ่านประตูแบบเหมาจ่าย เป็นการจ่ายเฉพาะเครื่องเล่นที่ต้องการเล่น การเดินทางจะไม่มีรถไฟฟ้าถึงโดยตรงแนะนำให้นั่งรถแท็กซี่ไปหรือนั่งรถเมล์สาย 323 ลงที่ป้ายถานจึฉือ แล้วเดินเท้าต่อไปประมาณ 150 เมตร สวนสนุกทั้งสองแห่งแนะนำให้ไปแต่เช้าเนื่องจากภายในกว้างมาก

ภูเขาชื่อดังในฉงชิ่ง ถ้ามาฉงชิ่งเมืองแห่งขุนเขาแล้วไม่เที่ยวเขาก็ถือว่ามาไม่ถึงฉงชิ่ง ภูเขาที่มีชื่อเสียงในฉงชิ่งที่อยากแนะนำให้ลองไปมี ภูเขาเซียนหนี่ซาน(ภูเขานางฟ้า)ตั้งอยู่ในเขตอู่หลง ภายในภูเขาจะมี การเดินทางแนะนำให้ซื้อทัวร์เนื่องจากอยู่นอกเมืองไกลและกลางคืนสามารถเข้าชมการแสดงอู่หลงที่มีชื่อโดยไฮไลท์การแสดงจะเน้นการแสดงที่ประยุกต์กับวัฒนธรรมฉงชิ่งแบบโบราณเข้ากับสมัยใหม่และมีการแสดงโดยใช้เรือของจริงแขวนไว้กับสลิงค์แล้วลอยข้ามภูเขาอีกลูกในฉากของจริงที่แสดงด้วย ช่วงฤดูหนาวแนะนำให้ไปภูเขาจินฝอซาน(Jinfoshan)เพื่อไปเล่นสกี ที่ภูเขาลูกนี้เนื่องจากมีความสูงมากแนะนำให้ซื้อทัวร์ไป เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกลและต้องนั่งสลิงค์สูงขึ้นไปบนภูเขาถ้าไปเองไม่คุ้ม ในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิแนะนำให้ไปภูเขาจินเตาเสีย(Jindaoxia)หรือภูเขาเฮยซานกู่(Heishangu)ที่ภูเขาจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามและมีดอกไม้ให้ถ่ายรูปเยอะ การเดินทางแนะนำให้ไปกับทัวร์เช่นกันเนื่องจากออกนอกเมือง

สวนสัตว์ฉงชิ่ง(Chongqing zoo) ตั้งอยู่ที่เขตจิ่วหลงพอ ที่เที่ยวแห่งนี้เหมาะสำหรับคนที่พาเด็กๆไปด้วยแล้วอยากพาไปสวนสัตว์ ที่สวนสัตว์ฉงชิ่งจะมีหมีแพนด้าให้ดูด้วย ราคาค่าเข้า 25 หยวน การเดินทางสามารถนั่งรถไฟฟ้าสีเขียว สาย 2 ไปลงที่หน้าสวนสัตว์ได้เลย โดยลงที่สถานีต้งอู้หยวน

น้ำพุร้อนเป่ยเวินฉวน(North hot spring) ในฉงชิ่งมีน้ำพุร้อนหลายแห่งแต่ที่มีชื่อเสียงอยากแนะนำให้ลองไปคือน้ำพุร้อนเป่ยเวินฉวน ตั้งอยู่ในเขตเป่ยเป้ย ซึ่งข้างในจะเป็นโรงแรมในตัวและมีห้องบุฟเฟ่ที่ใหญ่และทันสมัย อาหารบุฟเฟ่ก็หลากหลาย ที่เที่ยวแห่งนี้เหมาะกับคนที่ชอบแนวสโลวไลฟ์ การเดินทางสามารถนั่งรถไฟฟ้าสีชมพู สาย 6 ไปลงที่สถานีเป่ยเป้ยแล้วต่อด้วยแท็กซี่

เมนูแนะนำของฉงชิ่ง

หม้อไฟฉงชิ่ง(ฉงชิ่งหั่วกัว,หม้อไฟหม่าล่า) เมืองฉงชิ่งถือเป็นแหล่งต้นกำเนิดของหม้อไฟฉงชิ่ง เริ่มแรกมีต้นกำเนิดมาจากชนชั้นแรงงานแถบแม่น้ำเจียหลิงเจียงและเฉาเทียนเหมินเมืองฉงชิ่ง ในช่วงปลายราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงตอนต้น ปัจจุบันได้กลายเป็นเมนูอาหารขึ้นชื่ออันดับต้นๆของจีน และเป็นที่รู้จักของทั่วโลก โดยวัตถุดิบส่วนใหญ่ จะใช้เครื่องในสัตว์อย่างผ้าขี้ริ้ว ไส้เป็ด เลือดเป็นต้น รสชาติจะมีความเผ็ด ชาถึงลิ้น

ซวนล่าเฝิ่น(Suanlafen)และฉงชิ่งเสี่ยวเมี่ยน(บะหมี่ฉงชิ่ง)  ถือเป็นเมนูอาหารพื้นเมืองของฉงชิ่ง เป็นอาหารซวนล่าเฝิ่นเป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว เส้นทำจากแป้งมันและถั่ว ลักษณะพิเศษคือเผ็ด หอม เปรี้ยว มัน และชาจากการใส่ฮัวเจียว หาซื้อได้แทบทุกตรอกในเมืองฉงชิ่ง ส่วนเมนูฉงชิ่งเสี่ยวเมี่ยนถือเป็นอีกเมนูที่ขึ้นชื่อของเมืองฉงชิ่ง เน้นการปรุงรสชาติที่นิยมเป็นแบบเผ็ดและชา ราคาไม่แพง ส่วนใหญ่จะใส่ผัก และเส้น น้อยร้านที่จะใส่เนื้อสัตว์ลงไปด้วยแนะนำถ้าสั่งเมนูนี้ให้บอกเจ้าของร้านเพิ่มเนื้อสัตว์ลงไป

เต้าหู้ปลาซานซีโข่ว(Sanxikou doufu yu)ถือเป็นหนึ่งในเมนูชื่อดังของเมืองฉงชิ่ง ที่มีรสชาติเผ็ดอร่อย โดยเมนูนี้เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1980 ในแถบพื้นที่ซานซีโข่ว เป็นเมนูที่ทำจากปลาและเต้าหู้ ถั่วและเครื่องเทศต่างๆเป็นหลัก

 

อ้างอิง

1. Diana Edkins.2009. CHONGQING. Chongqing: City of Ambition: Schilt Publishing.

2. He Jia.2003. 重庆火锅. Chongqing: Culture and Art Publishing.

3. Hu Fei. 2008. 重庆旅游全攻略. Chongqing: Chongqing Publishing.

 

  • 5242