รถไฟ “เร็ว” แค่ไหนที่เรียกว่า “เร็วสูง”

Categories: sclc-ชีพจรจีน

คอลัมน์ออนไลน์ "ชีพจรจีน" ประจำเดือนธันวาคม

เรื่อง รถไฟ “เร็ว” แค่ไหนที่เรียกว่า “เร็วสูง”

โดย อาจารย์ศุภกร คนคล่อง

 

 

         เส้นทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือ สัญลักษณ์ของสายสัมพันธ์มิตรภาพที่ดีระหว่างจีน-สปป.ลาว ที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจที่ใช้งบประมาณในการก่อสร้างคิดเป็นเงินไทยประมาณเกือบ 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว โดยเส้นทางรถไฟสายนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเชื่อมต่อสำคัญภายใต้แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ทำให้ผู้คนต่างให้ ความสนใจกับเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงของสาธารณรัฐประชาชนจีนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ยังมีกระแสข่าวว่าในความเป็นจริงแล้ว เส้นทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างจีน-สปป.ลาวเส้นนี้ ยังไม่ถือเป็นรถไฟความเร็วสูง โดยความเร็วของรถไฟบนเส้นทางนี้จะมีความเร็วอยู่ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เร็วพิเศษ) และ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เร็วปกติ/ขนส่งสินค้า) ซึ่งแค่ฟังดูก็น่าจะเร็วอยู่แล้ว.... แต่ทำไมยังไม่ถูกเรียกว่ารถไฟความเร็วสูงอีกหล่ะ แล้วจะต้องมีความเร็วแค่ไหนถึงจะถูกจัดเป็นรถไฟความเร็วสูงกันแน่?

 

 

         รถไฟความเร็วสูงจีน (อักษรย่อ CRH) เป็นระบบรถไฟความเร็วสูงที่บริหารงานโดยการรถไฟแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ละขบวนจะถูกจัดให้มีความจุสำหรับผู้โดยสาร ประมาณ 568-588 คน สำหรับ 8 ตู้ และ 1,100-1,200 คน สำหรับ 16 ตู้ โดยประมาณ โดยรถไฟความเร็วสูงของจีนจะมีความเร็วอยู่ระหว่าง 250-480 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้แล้ว ความเร็วของรถไฟความเร็วสูงของจีนยังสามารถแบ่งออกเป็น“ความเร็วสูงสุดที่ทดสอบได้” กับ “ความเร็วสูงสุดที่ออกแบบ” อาทิ รถไฟความเร็วสูงขบวน CRH1A ที่มีความเร็วสูงสุดที่ออกแบบอยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเร่งความเร็วได้สูงถึง 278 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแน่นอนว่ายิ่งความเร็วสูงขึ้นมากเท่าไหร่ กำลังไฟฟ้าที่ต้องใช้ก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปเรื่อย ๆ

 

 

         จะเห็นได้ว่า ความเร็วขั้นต่ำของเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงของสาธารณรัฐประชาชนจีน จะอยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนเส้นทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างจีน-สปป.ลาวที่กำลังเป็นที่สนใจ มีความเร็วอยู่ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะมีอัตราความเร็วเทียบเท่ากับรถไฟด่วนพิเศษ(特快列车)เท่านั้นเอง ทั้งนี้ ในเรื่องของความเร็วของรถไฟความเร็วสูงเส้นนี้อาจถูกกำหนดโดยรัฐของทั้งสองประเทศ หรืออาจได้รับ การปรับลดความเร็วตามความเหมาะสมของภูมิประเทศของประเทศปลายทาง แต่ยังคงใช้ชื่อว่า “รถไฟความเร็วสูง” นั้นเอง

 

 

  • 1200