ป้ายทะเบียนรถพิเศษสีเขียว: มาตรการการรักษาสิ่งแวดล้อมของจีน

หมวดหมู่ข่าว: sclc-ชีพจรจีน

คอลัมน์ออนไลน์ "ชีพจรจีน" ประจำเดือนมีนาคม

เรื่อง ป้ายทะเบียนรถพิเศษสีเขียว: มาตรการการรักษาสิ่งแวดล้อมของจีน

โดย อาจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ มีชัยโย

 

 

     ประเทศจีนหรือสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก และการเติบโตทางเศรษฐกิจจำเป็นต้องอาศัยพลังงานในการขับเคลื่อน ดังนั้นประเทศจีนจึงต้องการบริโภคพลังงานจำนวนมากในแต่ละปี เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ของโลก ในปีพ.ศ.2563 ผลผลิตถ่านหินของจีนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4.07 พันล้านเมตริกตัน ส่วนการนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้นเช่นกันในปีที่พ.ศ 2562 สูงสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ 2556 ผลของการใช้ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานของโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ที่ผ่านมาจีนประสบปัญหามลพิษทางอากาศอย่างรุนแรง ตามข่าวที่เคยปรากฏผ่านมาทั้งทางสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ รัฐบาลและประชาชนจึงได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ได้มีการจัดประชุมเกี่ยวกับการพัฒนาฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยา ความหลากหลายทางชีวภาพ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่เมืองคุนหมิง มณฑลหยุนหนาน ทำให้ประเด็นเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม(环保)เป็นที่สนใจของสังคมจีนอีกครั้ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยประกาศว่าจีนจะปลอดคาร์บอนภายในปีพ.ศ. 2603 และรัฐบาลมีมาตราการหลายอย่างเพื่อให้แผนที่กำหนดไว้เป็นจริง รวมถึงการปิดเหมืองถ่านหินหลายร้อยแห่ง และการหาพลังงานทดแทนอื่นๆ เช่นพลังงานไฟฟ้าเป็นต้น

 

 

      ปัจจุบันจีนผู้นำแห่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า( Electric Vehicle :EV) รายใหญ่ กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ระบุว่ายอดผลิตและจำหน่ายยานยนต์พลังงานใหม่ขยายตัวถึง 160% เมื่อเทียบปีต่อปี หรือคิดเป็นจำนวนรถอยู่ที่ 3.5 ล้านคันในปี 2564 ความสำเร็จในการจูงใจให้ผู้ประชาชนหันมาใช้รถพลังงานใหม่นั้นรัฐบาลจีนได้วางแผนมาตั้งแต่ปี 2550 โดยสร้างแรงจูงใจให้สิทธิ์พิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อรถประเภทนี้ อาทิ การอุดหนุนค่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่แพงที่สุดของรถในราคาสูงถึง 2 แสนบาทต่อหนึ่งคัน และมาจนถึงปัจจุบัน รัฐบาลจีนก็ยังจ่ายเงินสนับสนุนดังกล่าวอยู่เช่นเดิม ในราคาประมาณ 1 แสนบาทต่อรถ 1 คัน

 

 

     นอกจากนี้รถพลังงานใหม่ในจีนที่ได้รับการจดทะเทียนแผ่นป้ายพิเศษสีเขียวจะได้รับสิทธิ์พิเศษมากมายในการจราจรบนท้องถนน อาทิ รถไฟฟ้าไม่กำหนดวันการใช้งาน (限号) สามารถขับได้ทุกวัน ปัจจุบันเราจะพบแผ่นป้ายพิเศษสีเขียวนี้วิ่งอยู่ตามเมืองเอกทั้งหมดของทุกมณฑล รวมถึงมหานครขนาดใหญ่อย่างเช่นปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ แตกต่างจากแผ่นป้ายทั่วไปของรถยนต์ซึ่งจะเป็นสีน้ำเงิน สำหรับรายละเอียดของป้ายพิเศษสีเขียวยังมีการแบ่งตามขนาดของรถและประเภทของเครื่องยนต์รถอีกด้วย สำหรับรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้พลังงานใหม่ป้ายพื้นหลังจะเป็นสีเขียวไล่ระดับ ส่วนป้ายทะเบียนรถยนต์ขนาดใหญ่ป้ายจะเป็นสีเหลืองและสีเขียว นอกจากนี้ยังใช้ตัวอักษร D และ F บอกถึงประเภทเครื่องยนต์ โดยตัวอักษร D ซึ่งแทนรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ซึ่งใช้ชุดแบตเตอรี่และมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนพลังงาน และไม่มีก๊าซไอเสียเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ส่วนตัวอักษร F หมายถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่บริสุทธิ์ 100 % เช่น รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง รถยนต์ไฮบริด ฯลฯ

 

 

     แม้รัฐบาลจีนจะผลักดันให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้านอกจากข้อดีคือเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ผู้บริโภคยังประหยัดเงินค่าน้ำมันอีกด้วย รถยนต์ไฟฟ้าถ้าชาร์ทเต็ม100% ที่สถานีชาร์ทสาธารณะราคาประมาณ 40-60 หยวน แต่หากชาร์ทที่บ้านราคาประมาณ 5-10 หยวน แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ดังนั้นเพื่อแก้ไขจุดอ่อนดังกล่าวคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) และ หน่วยงานรัฐ จึงต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เร่งสร้างและติดตั้งสถานที่ชาร์จในย่านชุมชน เพิ่มศักยภาพการชาร์จและเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งในเมืองและชนบท ขณะเดียวกันจะมุ่งก่อสร้างเครือข่ายสถานที่ชาร์จในชนบท ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามฟื้นฟูชนบท โดยจีนจะจัดตั้งสถานีชาร์จในทุกอำเภอและติดตั้งเสาชาร์จในทุกหมู่บ้านเพื่อขยายตลาดยานยนต์พลังงานใหม่ เพื่อเดินหน้าสู่ประเทศไร้มลพิษในปีพ.ศ. 2603 

  • 2777 ครั้ง