แกะรอยมาร์โค โปโลตะลุยแดนซีเป่ย (คัชการ์และตุนหวง)

หมวดหมู่ข่าว: sclc-ชีพจรจีน

คอลัมน์ออนไลน์ "ชีพจรจีน" ประจำเดือนมิถุนายน 2565

เรื่อง แกะรอยมาร์โค โปโลตะลุยแดนซีเป่ย (คัชการ์และตุนหวง)

โดย อาจารย์อภิญญา แดงทองดี

 

         การเดินทางเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีสำนวนกล่าวว่า “读万卷书,行万里路” สามารถตีความได้ว่าอ่านหนังสือเพิ่มความรู้ เดินทางเพิ่มประสบการณ์และเปิดโลกทัศน์ เมื่อพูดถึงนักเดินทางหลายคนมักจะนึกถึงนักเดินทางชื่อดังอย่าง “มาร์โค โปโล”(Marco Polo) นักเดินทางและพ่อค้าชาวเวนิสหนึ่งในนักเดินทางชาวตะวันตกที่ได้มาเยือนประเทศจีนโดยผ่านเส้นทางสายไหมในสมัยกุบไลข่านแห่งราชวงศ์หยวน ความเป็นมาของเส้นทางสายไหม(Silk Road) มีมาตั้งแต่ยุคราชวงศ์ฮั่น จีนเริ่มเปิดเส้นทางการค้าขายตั้งแต่สมัยของจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้โดยการส่งทูตออกไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับดินแดนอื่นๆ กล่าวได้ว่าเส้นทางสายไหมนอกจากจะเป็นเส้นทางการค้าแล้วยังเป็นหนึ่งช่องทางการเผยแพร่ทางศิลปะวัฒนธรรม นวัตกรรม แนวคิด ภาษา รวมถึงศาสนาอีกด้วย

        ในที่นี้จะกล่าวถึง 2 เมืองสำคัญที่คาดว่ามาร์โค โปโลเคยไปเช็คอินมาแล้ว สถานที่แรกคือเมืองคัชการ์เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนซึ่งเป็นประตูสู่เอเชียตะวันออกกลางหรือเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมในอดีต คัชการ์มีกลิ่นอายการผสมผสานทางวัฒนธรรมหลากหลายหากมาเยือนเมืองคัชการ์สามารถเดินชมเมืองเก่าและวิถีชีวิตของชาวอุยกูร์ แวะกินอาหารพื้นเมืองที่ถนนคนเดินประจำเมือง

         และที่พลาดไม่ได้ก็คือขี่อูฐไปชมทะเลทรายทากลามากัน ทะเลทรายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและเป็นจุดสำคัญของเส้นทางสายไหม หากไปฤดูหนาวก็จะได้บรรยากาศของทะเลทรายสีขาว และจุดเช็คอินที่เกิดหลังยุคของมาร์โค โปโลที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในเมืองคัชการ์ก็คือ Apakh Khoja Mazar หรือสุสานของสนมเซียงเฟยซึ่งเป็นสนมในจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง

        สถานที่ที่สองคือเมืองตุนหวง ตั้งอยู่ในเขตมณฑลกานซู่ติดกับซินเจียง เป็นเมืองโบราณ เมืองค้าขายสำคัญของเส้นทางสายไหมและเป็นโอเอซิสท่ามกลางทะเลทรายที่ร้อนระอุ เมืองตุนหวงเป็นเมืองแรกๆของจีนที่ได้รับอิทธิพลของศาสนาพุทธซึ่งแตกต่างกับซินเจียงที่ผู้คนนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งสิ่งที่สะท้อนให้เห็นอิทธิพลจากศาสนาพุทธก็คือถ้ำโม่เกาหรือวัดถ้ำแห่งตุนหวง ซึ่งเป็นวัดพุทธที่ตั้งอยู่กลางทะเลทราย ในวัดจะมีพระพุทธรูปและพุทธศิลป์ที่ผ่านกาลเวลามานานนับพันปี มีจุดเด่นตรงผาหินที่ถูกเจาะเป็นถ้ำทั้ง 495 ถ้ำเพื่อบรรจุพุทธประติมากรรม หอคอยเก้าชั้นด้านหน้าสร้างขึ้นในสมัยพระนางบูเช็คเทียนเพี่อปกป้องพระพุทธรูปด้านใน วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาที่ได้เป็นมรดกโลก

        และสถานที่ยอดนิยมอีกหนึ่งที่ของเมืองตุนหวงก็คือเย่ว์หยาเฉวียนหรือที่คนไทยรู้จักในชื่อทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวหนึ่งในมรดกโลกซึ่งเป็นจุดที่ต้องไปเช็คอินอย่างพลาดไม่ได้ ด้วยรูปทรงของโอเอซิสที่เป็นรูปโค้งพระจันทร์เสี้ยวจึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบแห่งนี้ ด้วยความพิเศษของภูมิประเทศและสภาพอากาศทำให้โอเอซิสรูปพระจันทร์นี้ไม่ถูกทะเลทรายกลืนกิน ด้านข้างยังมีสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่กล่าวกันว่าเป็นสถานที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพญามังกร สองเมืองดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางแห่งความรุ่งเรืองและเต็มไปด้วยอารยธรรมและความลึกลับที่รอคอยให้นักเดินทางไปค้นหา หลังโควิดแล้วไปย้อนรอยมาร์โค โปโลดื่มด่ำกับมนต์เสน่ห์แห่งแดนซีเป่ยกัน

อ้างอิง/ที่มา

YFosco Maraini. Marco Polo Italian explorer. Encyclopaedia Britannica. Retrieved May, 25, 2022, from

https://www.britannica.com/.../Marc.../Subsequent-reputation

วรินทร์ สิงหเสมานนท์.(2021).มาร์โค โปโล: นักเดินทางคนสำคัญแห่งโลกยุคกลาง. The People. Retrieved May, 25, 2022,from https://thepeople.co/marco-polo/

สุมาลี สุขดานนท์.(2019).ย้อนรอยเส้นทางสายไหม.Retrieved May, 25, 2022,from http://www.cuti.chula.ac.th/triresearch/saimai/1/saimai.html

Wikipedia(2022).ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว.Retrieved May, 25, 2022,from

https://th.wikipedia.org/.../%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80...

Wikipedia(2022)敦煌市. Retrieved May, 25, 2022,from https://zh.wikipedia.org/wiki/%E6%95%A6%E7%85%8C%E5%B8%82

 

 |   |  118 ครั้ง