“江山就是人民,人民就是江山” "ประเทศคือประชาชน และประชาชนคือประเทศ" เป็นคำกล่าวช่วงหนึ่งของสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศจีนหรือสาธารณรัฐประชาติจีนปกครองโดยพรรคการเมืองเดียวคือคอมมิวนิสต์จีนมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1949 ดังนั้นการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี จึงมีความสำคัญต่อการกำหนดอนาคตของประเทศจีนอย่างมาก เนื่องจากแนวคิด หลักการ จุดมุ่งหมายหลังการประชุมจะถูกนำไปต่อยอดเป็นนโยบาย ละลงมือปฏิบัติในระดับรากหญ้า
การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 จะใช้เวลา 7 วัน และปิดการประชุมวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ไปแล้วนั้น แม้ว่าส่วนใหญ่ของการประชุมจะเป็นการสรุปผลการทำงานและรับรองการทำงานของพรรคคอมมิวนิสต์จีนใน 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงนำเสนอแผนการณ์ในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่สิ่งที่ทุกคนจับตามองโดยเฉพาะการประชุมครั้งที่ 20 นี้ก็คือ รายชื่อของคณะผู้แทนของที่ประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเลือกในแต่ละระดับ โดยเฉพาะการเลือกผู้นำระดับสูงในคณะกรรมการประจำกรมการเมืองซึ่งเปรียบเหมือนบอร์ดบริหารของบริษัท ที่มีบทบาทหน้าที่กำหนดทิศทางของประเทศในอีก 5-10 ปี ข้างหน้า เนื่องจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีสมาชิกทั้งหมด 96 ล้านคน การเป็นตัวแทนของพรรคในการเข้าร่วมประชุมนั้นต้องผ่านคุณสมบัติที่กำหนดไว้ และผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น คุณสมบัติพื้นฐานเช่น 1.ต้องยึดหลักการลัทธิมาร์กซ์-เลนิน, ความคิดเหมาเจ๋อตง, ทฤษฎีเติ้งเสี่ยวผิง 2.มีความโดดเด่นในสายอาชีพการงานที่ตนสังกัด 3.มีความประพฤติดี มีคุณธรรม จริยธรรมในการเป็นแบบอย่าง สำหรับช่องทางในการคัดเลือกตัวแทนก็มีหลายช่องทาง เช่น 1.จากหนังสือแนะนำของหน่วยงานหรือองค์กรส่งมาที่พรรค 2.องค์กรพิจารณาคัดเลือกตัวแทน 3.ใช้วิธีลงคะแนนเลือกตั้งตัวแทน ทำการคัดเลือกตั้งแต่ระดับล่างสุดของหน่วยงาน/หมู่บ้าน และคัดเลือกจนเหลือจำนวน 2,296 คนเพื่อเป็นตัวแทนระดับสมาคมวิชาชีพ/มณฑล มาประชุมที่กรุงปักกิ่ง
โดยกระบวนการแรกผู้แทนพรรคจำนวน 2,296 คน จะต้องเลือกคณะกรรมการกลาง (中央委员会委员, Central Committee) ให้เหลือสมาชิกราว 250 คน หลังจากนั้นคณะกรรมการกลางจะเลือก คณะกรรมการกรมการเมือง (中央政治局委员,Politburo) เหลือราว 25 คน และจากนั้นคณะกรรมการกรมการเมือง จะเลือกกันเองให้เหลือ 7-9 คน (เลขคี่) เพื่อเป็นคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (中央政治局常委Politburo Standing Committee) ผลการคัดเลือกชุดที่ 20 ปรากฏว่ามีสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองเดิมที่ได้รับคัดเลือกกลับเข้ามา จำนวน 3 คน ได้แก่ 1. สี จิ้นผิง เลขาธิการพรรค 2. จ้าว เล่อจี้ เลขาธิการคณะกรรมการตรวจสอบวินัยศูนย์กลางพรรค 3.หวัง ฮู่หนิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และมีสนามชิกใหม่ อีก 4 ท่าน คือ 4.หลี่ เฉียง เลขาธิการพรรคประจำเซี่ยงไฮ้ 5.ไช่ ฉี เลขาธิการพรรคประจำกรุงปักกิ่ง 5.ติง เซวีย เสียง ผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์กลางพรรค 6.หลี่ ซี เลขาธิการพรรคประจำมณฑลกวางตุ้ง หากสำรวจรายชื่อก็จะพบว่าสียังไม่ได้กำหนดทายาททางการเมืองขึ้นอย่างชัดเจน นักวิชาการหลายคนชื่อว่า สีกำลังเปลี่ยนธรรมเนียมปฏิบัติของการเลือกผู้นำ เปลี่ยนแปลงการจัดสรรอำนาจในคณะกรรมการประจำกรมการเมืองจากเดิมให้ความสำคัญของกลุ่ม (集体) เปลี่ยนมาเป็นยกตนเองเป็นแกนกลางอำนาจแทน (核心) แม้ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่มีการกำหนดวาระ แต่หลังจากยุคเติ้งเสี่ยวผิงเป็นต้นมา จะมีแนวปฏิบัติที่เป็นธรรมเนียมคือเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะอยู่ในตำแหน่งเพียงสองวาระหรือประมาณ 10 ปี นี่จึงเป็นครั้งแรกที่สีจิ้นผิงจะทลายธรรมเนียมทางการเมืองเดิมทิ้ง และการเป็นผู้นำจีนที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเทียบเท่ายุคเหมา เจ๋อตุง เลยทีเดียว
อ้างอิง/ที่มา
พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีสมาชิกทั้งหมด 96 ล้านคน https://baijiahao.baidu.com/s?id=1736963876462424789...
‘สี จิ้นผิง’ นั่งผู้นำจีนสมัยสาม เปิดตัวทีมคนสนิทใน ‘โปลิตบูโร https://www.dailynews.co.th/news/1607251/
“สี จิ้นผิง” พญามังกรที่ทรงอำนาจมากที่สุดหลังยุคสมัยของเหมา เจ๋อตุง https://www.thansettakij.com/world/544765
เปิดฉากประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 จับตา ‘สีจิ้นผิง’ สร้างประวัติศาสตร์ครองอำนาจผู้นำสมัยที่ 3