ทุกครั้งที่ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ทุกคนก็จะนึกถึงความรัก และโดยมากมักนึกถึงความรักที่แสนหวานระหว่างหนุ่มสาว เราจะทำอะไรให้เขาคนนั้นดีหนอ เราจะพูดอะไรกับเขาดีหนอ เขาถึงจะรับรู้ถึงรักที่เรามีให้และรักเราไปนานๆ ทว่าน้อยคนนักที่จะคิดไปถึงว่า การรักษาความรักให้ยั่งยืนนาน แท้จริงแล้วมิได้มีเพียงการดูแลเขาคนนั้นให้ดีเท่านั้น แต่ยังต้องดูแลคนรอบกายเขาให้ดีด้วย นี่คือเคล็ดลับในการบำรุงรักษาความรักที่สำคัญยิ่ง
爱屋及乌 (ài wū jí wū อ้าย อู จี๋ อู) เป็นสุภาษิตภาษาจีนที่มีมาแต่โบราณและยังใช้ได้ผลเสมอ爱 ài หมายถึง “รัก” 屋wū หมายถึง “บ้าน” 及jí หมายถึง “และ” และ乌wū หมายถึง “นกกา” สุภาษิตนี้จึงหมายถึง “หากรักบ้าน ก็ต้องรักนกกาในชายคาบ้านด้วย” สำนวนภาษาอังกฤษที่ใกล้เคียงกันที่คนมักนึกถึงคือ Love me, love my dog. “หากรักฉัน ก็ต้องรักสุนัขของฉันด้วย” สำนวนของสองภาษานี้มีความรวมคล้ายกัน Love me, love my dog.หมายถึงหากรักใคร ก็ต้องยอมรับตัวตนของเขา สิ่งที่เขารักหรือข้อเสียของเขาให้ได้ด้วย ทว่า爱屋及乌 ต้องการสื่อว่าหากรักใคร ก็ต้องดูแลคนรอบกายเขาให้ดีด้วย แต่ สำนวน爱屋及乌 นั้นมีนัยยะที่เผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้าง และมีที่มาที่น่าสนใจ เรื่องราวแต่เดิมของสุภาษิตมีดังนี้
ในสมัยปลายราชวงศ์ซาง กษัตริย์โจ้วหวาง ผู้ปกครองนครเป็นผู้มีจิตใจโหดร้าย ละโมบโลภมาก สร้างความเดือดร้อนไปทั่วแผ่นดิน จีชาง เจ้าผู้ครองเมืองบริวารตั้งใจจะล้มล้างกษัตริย์โจ้วหวาง ทว่าไม่ทันได้ลงมือก็สิ้นชีพเสียก่อน จีฟา บุตรชายของจีชาง สืบทอดเจตนารมณ์ของบิดา ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนคร จีชางได้ร่วมกับเจียงซ่าง ซึ่งมาดำรงตำแหน่งเป็นราชครูที่ปรึกษา และน้องชาย คือจีต้าน และจีซื่อ รวบรวมกองกำลังจากรัฐต่างๆ ล้มล้างกษัตริย์โจ้วหวางสำเร็จจนโจ้วหวางฆ่าตัวตาย
เมื่อสิ้นศึก จีฟาได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ นามว่าโจวอู่หวาง โจวอู่หวางทรงเป็นกังวลว่าทั่วแผ่นดินยังสงบดี จึงได้ปรึกษามหาเสนาบดีเจียงว่าควรจะดำเนินการเช่นไรต่อกับเหล่าข้าราชบริพารเก่าของราชวงศ์ซาง ราชครูเจียงจึงให้คำแนะนำว่า “ข้าพเจ้าเคยได้ยินมาว่า หากเรารักผู้ใด แม้แต่นกกาที่ใต้ชายคาเดียวกับผู้นั้นเราก็ต้องรักด้วย หากเราชังผู้ใด แม้แต่กำแพงบ้าน รั้วบ้านของผู้นั้นเราก็พลอยชังไปด้วย ดังนั้น พวกเราก็ต้องประหารเหล่าข้าราชบริพารเดิมทิ้งเสียให้สิ้นซาก ไม่ต้องเหลือไว้แม้เพียงผู้เดียว พระองค์ทรงมีดำริเช่นไร”
โจวอู่หวางเห็นว่าไม่เหมาะ จีต้านซึ่งเลื่อนตำแหน่งเป็นเสนาบดี จึงทูลว่า “หากประหารผู้มีโทษ แล้วปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์ ท่านเห็นว่าเป็นเช่นไร” โจวอู่หวางก็เห็นว่าไม่เหมาะอีก จีซื่อ ซึ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเสนาบดีอีกคนหนึ่งก็ทูลว่า ข้าพเจ้าเห็นว่า ให้เหล่าทหารเหล่านั้นกลับไปใช้ชีวิตยังบ้านเกิด ทำนาทำไร่เถิด ท่านไม่ควรลำเอียงใส่ใจแต่ญาติสนิทมิตรสหายแต่อดีตของท่านเท่านั้น ท่านควรปกครองแผ่นดินโดยธรรม”
โจวอู่หวางเห็นด้วยอย่างยิ่ง เห็นว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้ไพร่ฟ้าทั่วหล้าอยู่อย่างสันติได้ จึงดำเนินการตามความเห็นของน้องชาย แผ่นดินโจวก็สงบสุขและเข้มแข็งยิ่งขึ้นนับแต่นั้นมา
สำนวน 爱屋及乌 จึงมีที่มาจากแนวคิดการปกครองบ้านเมือง ต่อมาได้ขยายความไปใช้กับการดูแลความรัก เมื่อเรารักใครแล้วก็จงรักสิ่งนั้นให้เหมือนที่รักเขา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ งานอดิเรก หรือเรื่องใดๆและหมายรวมถึงการเผื่อแผ่ความรักแก่คนรอบข้างเขาด้วย เช่น พ่อ แม่ เพื่อน หากเราสนใจเพียงคนรักของเรา โดยไม่ใส่ใจพ่อแม่เพื่อนของเขา เมื่อยามความสัมพันธ์คลอนแคลน เขาเหล่านั้นก็อาจเห็นด้วยที่จะให้ความสัมพันธ์เราสะบั้นลง แต่หากเราดูแลทุกคน เมื่อยามวิกฤติ เขาเหล่านั้นก็จะช่วยประคับประคองให้ผ่านพ้นไปได้ หากเราใส่ใจทุกอย่างเกี่ยวกับคนที่เรารัก เขาย่อมสบายใจที่จะอยู่กับเรา ไว้วางใจเรา ความรักของเราก็จะยั่งยืนนาน ดังนั้นความรักไม่ใช่เพียงเรื่องของคนสองคนเท่านั้น เราต้องเปิดใจให้กว้าง และยอมรับทุกสิ่งและทุกคนที่อยู่ในชีวิตเขา เพราะสิ่งเหล่านี้คือตัวตนของเขาทั้งหมดนั่นเอง
อ้างอิง
佚名。《爱屋及乌》https://baike.baidu.com/item/
%E7%88%B1%E5%B1%8B%E5%8F%8A%E4%B9%8C/261627 搜查日期:2023年2月20日。