จับกระแสการท่องเที่ยวจีนในยุคสมัยใหม่

หมวดหมู่ข่าว: sclc-ชีพจรจีน

คอลัมน์ออนไลน์ "ชีพจรจีน" ประจำเดือนเมษายน 2567

เรื่อง จับกระแสการท่องเที่ยวจีนในยุคสมัยใหม่

โดย อาจารย์แอนนี คำสร้อย (อาจารย์ประจำสำนักวิชาจีนวิทยา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง)

     หลังจากมีการประกาศยกเลิกวีซ่าไทย-จีนระหว่างกันอย่างเป็นทางการ คงมีคนไทยไม่น้อยที่อยากถือโอกาสนี้ไปเที่ยวประเทศจีนซักครั้ง แต่คุณทราบหรือไม่ว่า ปัจจุบันกระแสนิยมและรูปแบบการท่องเที่ยวของจีนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยนี้กันค่ะ

     หากมองย้อนกลับไป การท่องเที่ยวอยู่คู่กับสังคมจีนมายาวนานหลายพันปี ซึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวในยุคบุกเบิกช่วงราชวงค์เซี่ย ซาง โจวและยุควสันตสารทกับยุครณรัฐ(夏商周和春秋战国) จะเป็นไปในลักษณะของการผจญภัย บุกป่าฝ่าดง สำรวจดินแดนใหม่ ต่อมาในยุคพัฒนาช่วงราชวงค์ฉิน ฮั่นและสมัยเว่ย จิ้น ราชวงค์เหนือ ใต้ (秦汉和魏晋南北朝) จะมีรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อการบำเพ็ญเพียร การฝึกฝนกายและจิต เช่น การเดินทางของนักบวชในลัทธิขงจื่อ พุทธ และเต๋า ส่วนในยุครุ่งเรืองช่วงราชวงค์สุยและถัง(隋唐时期)จักรพรรดิหยางแห่งราชวงศ์สุยได้บุกเบิกการเดินทางท่องเที่ยวด้วยขบวนแห่เรือมังกร นอกจากนี้ ยังมีการเดินทางเผยแพร่ความรู้ของนักปราชญ์และการเดิน ทางเผยแพร่ศาสนาของนักบวช เป็นต้น จะเห็นได้ว่า รูปแบบการท่องเที่ยวจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละยุคสมัย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบทางสังคม ความเชื่อและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป

     สำหรับรูปแบบการท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันหรือที่รู้จักกันในชื่อ “ยุคสมัยใหม่” ของจีน มีจุดเด่นอยู่ที่ความหลากหลาย และการชูอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมจีน ซึ่งภายใต้แผนพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 ของจีน (“十四五”旅游业发展规划)ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมการบูรณาการระหว่างวัฒนธรรมกับการท่องเที่ยว(以文塑旅、以旅彰文)ผลักดันการหลวมรวมระหว่างภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกับภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ภายใต้แนวคิด “ การท่องเที่ยว + (旅游+) ” หรือ “ + การท่องเที่ยว (+旅游 )” ตัวอย่างเช่น โปรแกรมการท่องเที่ยวตามรอยกีฬา(跟着赛事去旅行)โปรแกรมการท่องเที่ยวตามล่าของอร่อย (寻味美食去旅行) เป็นต้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมโปรแกรมการท่องเที่ยวที่ดึงดูดและตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวสายกีฬา สายกิน หรือสายสุขภาพ

     นอกจากนี้ ในหมู่ของนักศึกษาหรือวัยรุ่นในประเทศจีน ยังเกิดกระแสการท่องเที่ยวที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่ขึ้นมามากมาย ที่กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ตอนนี้ ก็อย่างเช่น การท่องเที่ยวแบบหน่วยรบพิเศษ (特种兵式旅游)ซึ่งแก่นแท้ของการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่นี้คือการเพลิดเพลินกับทรัพยากรการท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุดโดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด นักท่องเที่ยวใช้เวลาและค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดในการเยี่ยมชมจุดชมวิวที่สวยที่สุด เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมเนียมประเพณีของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ให้ได้มากที่สุด เสมือนกำลังปฏิบัติภารกิจพิเศษ กล่าวคือ เป็นการท่องเที่ยวที่ลงทุนน้อยแต่ต้องคุ้มค่าที่สุด ซึ่งต้องใช้ความอึดของร่างกายเป็นอย่างมากเช่นกัน

     อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ การท่องเที่ยวแบบสวนทาง (反向旅游)เป็นการท่องเที่ยวในรูปแบบสวนกระแส หลีกเลี่ยงการไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพบเจอกับความแออัดของผู้คน ไม่ต้องแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวกับใคร ซึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวในลักษณะนี้ นอกจากจะทำให้ผู้เที่ยวเกิดความสบายกายสบายใจในการเที่ยวแล้ว ยังส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังแหล่งท่องเที่ยวขนาดเล็กอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง

"Double Festival" tourism consumption is booming and "reverse tourism" has become a new trend [“双节”旅游消费火热“反向旅游”成新潮流]. (2023, October 3). Xinhua net. http://www.news.cn/fortune/2023-10/03/c_1129898268.htm.

Special forces style tourism [特种兵式旅游]. Baidu Encyclopedia. https://baike.baidu.com/ item/%E7%89%B9%E7%A7%8D%E5%85%B5%E5%BC%8F%E6%97%85%E6%B8%B8/62857080

The State Council issued the "14th Five-Year Plan for Tourism Development" [国务院发《“十四五”旅游业发展规划》]. (2022, January 21). Ministry of Culture and Tourism of the People’s Republic of China. https://zwgk.mct.gov.cn/.../202201/t20220121_930620.html

 

  • 52 ครั้ง